ในทุกวันนี้ทุกคนต่างใช้โทรศัพท์มือถือในชีวิตประจำวัน ซึ่งแทบจะเป็นอวัยวะที่ 33 กันไปแล้ว ทุกคนจะต้องมีเคสเพื่อปกป้องมือถือของเรากันใช่ไหมครับ รู้หรือเปล่าว่า เคสโทรศัพท์มือถือนั้นสามารถบ่งบอกความเป็นตัวเราได้
ในวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ CASETiFY แบรนด์แคสโทรศัพท์มือถือสุดยูนีค ที่ทำให้เคสโทรศัพท์มือถือทั่วไป กลายเป็น Accessory สุด Creative ไม่ว่าจะดีไซน์สุดแปลก หวาสะดุดตา หรือตัวละครที่ชอบก็สามารถสร้างได้
Credit: X @Casetify
ก่อนอื่นต้องขอพาเพื่อนๆทุกคน ไปรู้จักกับผู้ก่อตั้งแบรนด์กันก่อน คุณ Wesley Ng เป็นนักธุรกิจชาวฮ่องกง ได้ก่อตั้งแบรนด์ในปี 2011 จุดเริ่มต้นคือ อยากได้เคสกันกระแทกสำหรับโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ของตัวเอง แต่ว่าเคสโทรศัพท์ในตลาดขณะนั้นมีรูปร่างที่ใหญ่ หนาเทอะทะ และที่สำคัญ ไม่มีดีไซน์ที่เขาชอบเลย
Credit: wonderland magazine
บวกกับตอนนั้นคุณ Wesley Ng ชื่นชอบและติด Instagram มากๆ จนรู้สึกอยากนำโซเชียลมีเดียอันนี้มาสร้างสรรค์ ในช่วงแรกๆของ CASETiFY นั้นใช้ชื่อว่า Casetagram
จุดเด่นที่ทำให้ CASETiFY นั้นโดดเด่นกว่าเคสโทรศัพท์อื่นๆ มีอยู่ 3 สิ่ง
1. Personalized Case หรือ เคสโทรศัพท์มือถือที่ออกแบบด้วยตัวเอง
คุณ Wesley รู้ดีว่า การที่ลูกค้าของเขาจะเลือกซื้อเคสโทรศัพท์มือถือสักชิ้น เคสนั้นๆ ย่อมจะต้องมีความแตกต่าง ไม่จำเจ ไม่หนาเทอะทะแบบที่มีอยู่ในท้องตลาด และเป็นสิ่งที่คนๆนั้นชื่นชอบ สามารถถ่ายทอดอัตลักษณ์และตัวตนของตัวเองได้ (Self-Expression)
Credit: Instagram CASETiFY
ซึ่งในจุดนี้เองทำให้ CASETiFY กลายเป็นแบรนด์ที่โดดเด่น บวกกับการให้ผู้ใช้ดีไซน์ปรับแต่งเคสโทรศัพท์ของตัวเองได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ความแข็งแรง ความหนา วัสดุ จนไปถึงการเลือกสี ฟอนต์ การวางเลย์เอาต์ หมายความว่า เคสโทรศัพท์มือถือที่ที่คุณออกแบบนั้น มีเพียงชิ้นเดียวในโลก และชิ้นนั้นเป็นของคุณ
Credit: Official Website CASETiFY
ด้วยแนวคิด Personalized Case ทำให้ลูกค้าหลายคนรู้สึกตรงกันว่า CASETiFY เป็นเหมือนแบรนด์เครื่องประดับ High-end ที่ให้ความสำคัญกับบุคลิกที่สะท้อนความเป็นตัวตนในแบบที่ไม่มีแบรนด์ไหนเคยทำมาก่อน ซึ่งยอดขายกว่า 25% ของ CASETiFY มาจากการให้ลูกค้า Custom ลายเองได้อีกด้วย
2. Collaboration กับแบรนด์ดังระดับโลก
ไม่ว่าจะเป็น Stranger Things, Pokémon, Disney and Pixar’s Toy Story, Dragon Ball Z, DHL, BLVCK และอื่นๆมีมาก อีกทั้งคุณ Wesley Ng ยังกล่าวว่า
“Collaborations play a very important role in keeping up with the excitement,” – Wes Ng.
การจับมือร่วมมือกันระหว่างแบรนด์มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการทำให้ลูกค้าเกิดความตื่นเต้น
Credit: เว็บไซต์ Medium
ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในการ Collab นั้นทาง CASETiFY ไม่ได้คอลแลปกับเฉพาะแบรนด์แฟชั่นเพียงอย่างเดียว แต่มีการจับมือพันธมิตรกับแบรนด์ธุรกิจอื่นๆหรือศิลปินดังๆ เป็นเอกลักษณ์และจุดเด่นที่ช่วยผลักดันยอดขายส่วนใหญ่ในฝั่งเอเชียได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับแฟชั่นมากขึ้น ในขณะที่ในฝั่งสหรัฐฯ การไป Collab กับศิลปินดังสามารถช่วยรักษายอดขายส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
Credit: เว็บไซต์ Tenere team
นอกจากฐานลูกค้าที่ CASETiFY มีอยู่แล้ว ก็ยังได้ฐานลูกค้าจากแบรนด์ที่ไป Collab ด้วย ซ้ำยังช่วยเพิ่ม Brand Awareness ไปในตัว เพราะคนที่ไม่เคยรู้จัก CASETiFY มาก่อน แต่พอเห็นว่าแบรนด์ที่เขาชอบไป Collab กับ CASETiFY เขาก็อยากเข้ามาทำความรู้จักกับแบรนด์มากขึ้น
3. Utilize social media การเล่นกับกระแสโซเซียล
Instagram เป็นแรงบันดาลใจหลักของการเริ่มต้นธุรกิจ CASETiFY จึงมองว่าเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และช่องทางโซเชียลเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ รวมถึงการเชื่อมโยงกับ Community ของแบรนด์ ต้องยอมรับว่าโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีอิทธิพลมากๆ สำหรับคนยุคใหม่
แน่นอนอยู่แล้วว่ากลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์เป็นกลุ่มผู้ใช้งานรุ่นใหม่ ที่มีการใช้สมาร์ทโฟนเป็นหลัก และมีไลฟ์สไตล์ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีอยู่แล้ว บวกกับเอาพฤติกรรมที่ชอบการถ่ายรูปตัวเองกับกระจก (Selfie) ซึ่งมันก็จะทำให้เห็นเคสจาก CASETiFY ในรูปถ่ายด้วย
Credit: Instagram CASETiFY
และยิ่งถ้าคน ๆ นั้นเป็นบุคคลดังระดับโลก ก็จะยิ่งช่วยเพิ่ม Brand Awareness ได้มากขึ้นไปอีก โดยที่แบรนด์ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพื่อทำการตลาดเลย
ในช่วงแรกๆ ความนิยมของ CASETiFY เริ่มต้นจากเคสโทรศัพท์กลุ่มผู้ใช้ Instagram แต่ในช่วงแรกต้องใช้เวลานานกว่าที่ KOL จะสามารถสร้างยอดสั่งซื้อให้กับแบรนด์ได้จริงๆ CASETiFY เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเมื่อเหล่าคนดัง เช่น ราชินีแห่งโซเชียลมีเดีย Kylie Jenner, และ Jennie จากวงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี BlackPink ได้แชร์บน Instagram ซึ่งการสนับสนุนจากพวกเขา ทำให้แบรนด์ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมมากขึ้น
Credit: Instagram Casetify และบทความเว็บไซต์ Medium
เห็นได้ว่าความสำเร็จของ CASETiFY นั้นไม่ใช่แค่เคสโทรศัพท์มือถือทั่วไป แต่เป็นเหมือนเครื่องประดับที่ช่วยนำเสนอตัวตนของเรา บวกกับกลยุทธ์ทางการตลาดที่เฉียบคมทำให้ CASETiFY เป็นแบรนด์ที่เติบโตและประสบความสำเร็จได้อย่างยอดเยี่ยมจนมาถึงทุกวันนี้
เรียบเรียงโดย: รัชชานนท์ เฉลิมธารานุกูล (Business Hole in One Team)
ติดตามเรื่องราวสนุกๆ ความรู้ ของธุรกิจ แบรนด์ และการออกแบบกับ Business Hole in One มีเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกันทุกสัปดาห์
