Get in Touch

Edit Template

ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน แค่ชื่อแบรนด์ก็ตอบทุกอย่างแล้ว!

ธุรกิจควรมีสิ่งไหนที่โดดเด่นจนทำให้ลูกค้าจดจำ? หลายๆคน คงจะมีเดาคำตอบในใจ ไม่ว่าจะเป็น Branding, Packaging หรือ Content โปรโมทของทางแบรนด์ แต่ในวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับธุรกิจที่มีชื่อสุดยูนีค แค่เห็นปั๊บก็รู้เลยว่าธุรกิจนี้ขายอะไร กับ แบรนด์คนไทย ที่ชื่อว่า “ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน”

Credit: PunPro

ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน เป็นแบรนด์คนไทยที่ก่อตั้งโดย “คุณวิว – พันธ์ทิพย์ ดีเจริญ” ที่เปิดมาได้เพียง 1 ปีเศษๆ เท่านั้น แต่กลับมีการเติบโตที่ดีแบบฉุดไม่อยู่ ด้วยผลประกอบการร้านชาเย็นของเธอ โตกว่า 1,000% คาดว่า ปี 2567 น่าจะปิดปีไปด้วยรายได้ “100ล้านบาท” โดยตอนนี้มีสาขาทั้งหมด 16 แห่ง ทั้งยังมีแผนก่อร่าง “แฟล็กชิปสโตร์” ที่ถนนบรรทัดทองให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับสาวกชาเย็นได้มากขึ้นอีกด้วย

Credit: sme thailand club

จุดเริ่มต้นความเป็นมาของ ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน คุณวิวเรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ คณะบริหารธุรกิจ สาขา การบริหารระหว่างประเทศ โทการตลาด ในปี 2019 หลังจากเรียนจบ เริ่มแรกคุณวิวได้เปิดร้านคาเฟ โดยใช้ชื่อแรกว่า “Better Beam café️” อยู่บริเวณถนนบรรทัดทอง เป็นคาเฟทั่วไป ขายขนมโฮมเมด, กาแฟ และเครื่องดื่ม ผลตอบรับก็ถือว่าดีพอสมควรแต่ผลประกอบการก็ยังไม่ได้ดีมาก

แต่ก็ดีพอที่จะผ่านวิกฤติช่วงแรกมาได้ หลังจากสถานการณ์โรคระบาดเริ่มคลี่คลายลง ธุรกิจคาเฟมีการแข่งขันที่สูงขึ้นและคู่แข่งที่มากขึ้น คาเฟ่จึงต้องมีลูกเล่นใหม่ ๆ อยู่เสมอ และแน่นอนว่าต้องอาศัยเงินทุนจำนวนมาก คุณวิวเลยมองหาสิ่งใหม่ที่จะสามารถต่อยอดจากธุรกิจคาเฟ่

คุณวิวได้ตัดสินใจและวิเคราะห์ Hero Product ที่ร้านมี นั่นคือ เมนูชาเย็นซิกเนเจอร์ ด้วยมุมมองที่มี บวกกับในท้องตลาดเวลานั้นมีแต่ชาต่างประเทศ เช่น ชานม ชาเขียว ชาไต้หวัน แต่ยังไม่มีร้านขายเครื่องดื่มร้านไหนที่ เน้นชูโรงด้วยชาเย็นเลย

Credit: กรุงเทพธุรกิจ

จุดนี้เองที่คุณวิวได้นำประสบการณ์ชีวิตที่เป็นคนดื่มชามาตั้งแต่เด็ก และเติบโตมาในครอบครัวของคนที่ดื่มชา ด้วยพื้นเพที่เป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงมีความรู้จักในรสชาติที่แตกต่างกันของใบชาไทยในแต่ละภาคเป็นอย่างดี

เมื่อต้องมาทำแบรนด์ชาเย็นของตัวเอง จึงเลือกที่จะสร้างรสสัมผัสในแบบพิเศษ ให้อร่อยและเข้มข้นกว่าชาที่มีขายในท้องตลาด สร้างจุดเด่นด้วยการดึงรสชาติจากใบชาที่ผสมผสานระหว่างใบชาจากภาคใต้ และใบชาจากภาคกลางเข้าด้วยกัน ซึ่งใบชาภาคใต้จะมีความเข้มข้น หนักแน่น เมื่อนำมาผสมกับใบชาภาคกลางที่มีความหอม ละมุน จึงออกมาเป็นรสชาติที่กลมกล่อม หอม เข้มข้นได้อย่างลงตัว

แล้วทำไมถึงต้องเป็นชาเย็น? คุณวิวได้ให้เหตุผลมาว่า ชาเย็นเป็นสิ่งที่หลายคนคุ้นเคยกันอยู่แล้ว คนที่กินชาเย็นก็มีจำนวนเยอะ และหลายๆ คนก็กินแทบทุกวัน คนที่ติดชาเย็นก็จะต้องกินชาเย็นทุกวัน เหมือนกับที่คนติดกาแฟก็จะต้องกินกาแฟทุกวัน

Credit: กรุงเทพธุรกิจ

ในช่วงแรกร้านจะเน้นการออกอีเวนต์เป็นส่วนใหญ่ โดยจะเน้นสถานที่ของสำนักงาน, ออฟฟิศ และเป็นการสำรวจกลุ่มลูกค้าไปในตัว ผลตอบรับในช่วงแรกออกมาค่อนข้างดี ด้วยราคาที่ไม่สูงเกินไปและไม่ต่ำเกินไป 

ต่อมาในปี 2023 ตลาดจ๊อดแฟร์กำลังได้รับความนิยมมาก คุณวิวมองเห็นโอกาสในการเติบโต จึงลองไปจองล็อกเพื่อนำแบรนด์ชาเย็นของตัวเองไปขาย ผลปรากฎว่า ได้ยอดขายไม่ดีเท่าที่หวัง เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของตลาดและแบรนด์ ไม่ตรงกัน ตลาดจ๊อดแฟร์ที่มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่กลุ่มลูกค้าของคุณวิวคือ คนไทยกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ชื่นชอบและคุ้นชินกับชาเย็น

ด้วยจุดนี้เองคุณวิวจึงได้กลับมาเปิดร้านที่บรรทัดทองอีกครั้ง Re-Brand ครั้งใหญ่ และนำชื่อที่คิดได้จาก Concept คนที่ติดชาเย็นก็จะต้องกินชาเย็นทุกวัน เหมือนกับที่คนติดกาแฟก็จะต้องกินกาแฟทุกวัน จนได้ชื่อร้านว่า ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน เพื่อเป็นการบอกเลยว่า สินค้าของเราคืออะไร และเราขายอะไร ซึ่งในจุดนี้ นอกจากชื่อร้านที่เก๋และโดดเด่นแล้ว คุณวิวก็ยังได้ ทำโลโก้ สี ภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เข้าถึงง่าย เป็นกันเอง และดึงดูดความสนใจของทุกเพศทุกวัยอีกด้วย

Credit: sme thailand club

บวกกับก่อนหน้านี้ที่ คุณวิว มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว เธอก็ยังได้นำโซเซียลมีเดียเข้าช่วยกระตุ้นการรับรู้ ผ่านการลงคลิปวิดิโอใน TikTok เป็นช่องทางที่คนสนใจ รู้สึกแปลกใหม่ และอยากมาลองชาเย็นของร้านนี้ อีกทั้งยังได้เพิ่มกิมมิคเล็กๆน่ารัก ผ่านตัวกระดาษสวมแก้ว หรือ “Cup Sleeve” ที่ผ่านการคิดมาแล้วว่า การใส่ข้อความหรือ Quote สั้นๆ ให้คนเห็นแล้วอยากถ่ายรูปลงโซเชียล อยากบอกต่อ นี่จึงเป็นอีกนึงที่ทำให้แบรนด์ถูกบอกต่อเป็นวงกว้าง จนติดตลาด

Credit: รีวิว Wongnai คุณ LunnyToon

แต่เมื่อแบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จัก ก็ต้องพบกับความท้าทายเข้ามาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นมีคู่แข่งที่มากขึ้น คุณวิวมองว่าความท้าทายครั้งนี้ส่งผลดีต่อแบรนด์เป็นอย่างมาก เพราะทำให้คุณวิวพัฒนาแบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับลูกค้า เช่น ชาสปาร์กลิง, หมวก, เสื้อ หรือจะเป็นการคอลแลบกับแบรนด์อื่นๆ

Credit: Instagram everyday.thai.tea

จากความสำเร็จของร้าน ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน บอกเลยว่าคุณวิวนั้นได้นำจุดเด่นของสินค้าที่มี มาต่อยอดและพัฒนาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในการ Re-Branding ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ออกให้เข้าถึงง่าย อีกทั้งยังนำเอา Custumer Point นำเอามุมมองที่มีต่อชาเย็นมาต่อยอด เข้าใจในกลุ่มคนกินชาเย็น มาสร้างแบรนด์ที่ได้ใจลูกค้าและสร้างกลยุทธ์การตลาดที่โดนใจทุกเพศทุกวัย

บอกเลยว่าทุกวันนี้ ถ้าต้องนึกถึงร้านชาเย็น ต้องมีชื่อร้าน ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน อยู่ในลิสต์ร้านที่อยากกินแน่นอน

เรียบเรียงโดย: รัชชานนท์ เฉลิมธารานุกูล (Business Hole in One Team)

ติดตามเรื่องราวสนุกๆ ความรู้ ของธุรกิจ แบรนด์ และการออกแบบกับ Business Hole in One มีเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกันทุกสัปดาห์

About Business Hole in One

ณัฐพงศ์ ขนอม (กอล์ฟ) เป็นอาจารย์ นักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญเรื่องการออกแบบอัตลักษณ์ของแบรนด์และองค์กร ถ่ายทอดเรื่องราวจากประสบการณ์รวมกว่า 15 ปี จากการบริหารธุรกิจ การตลาด งานออกแบบ เป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจ เป็นวิทยากร Guest Speaker และอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย

Most Recent Posts

ติดต่องาน

งานวิทยากร งานสอน งานบรรยาย สัมมนา ที่ปรึกษาด้านธุรกิจ แบรนด์ และการออกแบบ

26/59 Orakarn Building Floor 16th, Soi Chidlom, Ploenchit Rd., Lumpini, Patumwan, Bangkok 10330

ติดต่องาน

งานวิทยากร งานสอน งานบรรยาย สัมมนา ที่ปรึกษาด้านธุรกิจ แบรนด์ และการออกแบบ

E: businessholeinone@gmail.com

T: 082-644-1665